วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาออกแถลงการณ์สั่งห้ามกรรมการบริษัท
Meta จำนวน 22 เข้าประเทศกัมพูชา ส่วนกรรมการบริษัท Meta
คนใดที่อาศัยอยู่ในกัมพูชาก่อนแล้ว พวกเขาต้องรีบเดินทางออกจากกัมพูชาทันที่
ภายในเวลา 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 4 กรกฎาคม 2566
นี้
ตามเวลาท้องถิ่น
![]() |
สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา |
แถลงการณ์ระบุว่า จากคำแนะนำของกรรมการกำกับดูแลอิสระของบริษัท Meta
สั่งระงับบัญชี
facebook ของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นการชั่วคราว นั้น
ถือว่าเป็นการจงใจแทรกแซงทางการเมือง เป็นลักษณะการเมืองที่มุ่งจะขัดขวางเสรีภาพการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชนกัมพูชา
และสิทธิในการรับข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือจากผู้นำที่พวกเขาสนับสนุนและนับถือ
สุดท้ายของคำแถลงการณ์ครั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชา ได้ระบุว่าด้วยจิตวิญญาณแห่งความยึดมั่นที่ไม่แปลงเปลี่ยนในการสนับสนุนหลักปฏิบัติของอำนาจอธิปไตย
และเพื่อป้องกันการแทรกแซงกิจการภายในของรัฐบาลกัมพูชา
ทางรัฐบาลกัมพูชาจึงได้ตัดสินใจประกาศให้กรรมการกำกับดูแลอิสระของบริษัท Meta จำนวน 22
คน
เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา
การแถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาครั้งนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับนักสังเกตการณ์การเมืองกัมพูชาที่สมเด็จฮุน
เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะจัดการกับ fecbook แบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้สั่งปิดสื่ออิสระของกัมพูชาแทบหมดแล้ว
แม้แต่องค์กรพัฒนาเอกชนอื่นๆ
ที่ทำงานช่วยเหลือประชาชนกัมพูชาบางแห่งก็ถูกสั่งปิดเช่นกัน หากองค์กรเหล่านั้นกล้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกัมพูชา
สำหรับสาเหตุของการสั่งให้กรรมการทั้ง 22 คน ของบริษัท Meta
ต้องเดินทางออกจากกัมพูชาภายในเวลา
48 ชั่วโมง ที่มาที่ไปของกรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ facebook
ได้สั่งปิดคลิปที่เผยแพร่ใน facebook เป็นคลิปวีดีโดภาพและเสียงของสมเด็จฮุน
เซน ที่ใช้คำพูดข่มขู่กลุ่มนักการเมืองฝ่ายค้านว่า “เลือกเอาอันไหนระหว่างกฎหมาย
หรือไม้แข็ง” ซึ่งในคลิปนั้นสมเด็จฮุน เซนยังพูดต่อด้วยว่า “หากเลือกไม้แข็ง กูจะสั่งคนให้ไปถึงหน้าบ้านมึงเลย....”
![]() |
เอกสารแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา |
จากคลิปข้างต้นนี้ ทาง facebook เห็นว่าสมเด็จฮุน เซนใช้คำพูดยุยง เป็นลักษณะสนับสนุนการใช้ความรุ่นแรงต่อฝ่ายตรงข้าม ต่อมา facebook จึงสั่งปิดคลิปเจ้าปัญหาดังกล่าวออกจาก facebook แต่ทว่าเมื่อโดนแบบนี้ ตามสไตล์สมเด็จฮุน เซน แน่นอนว่า แกไม่ยอมง่ายๆ ตามข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว มีการชี้แจงไปมาระหว่างฝ่ายกฎหมายของสมเด็จฮุน เซน และฝ่าย facebook หลายครั้ง จนสุดท้ายฝ่ายกรรมการกำกับดูแลอิสระของบริษัท Meta ได้ข้อสรุปว่าจะสั่งปิด facebook ทางการของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นการชั่วคราว ระยะเวลา 6 เดือน ส่วนฝ่ายสมเด็จฮุน เซน ก็ได้ข้อสรุปเหมือนกัน คือปิดบัญชี facebook สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นการถาวรไปเลย เป็นการตอบโต้กับ facebook ชนิดแบบไม่ยอมอ่อนข้อตามสไตล์สมเด็จฮุน เซน แม้บัญชี facebook ของสมเด็จฮุน เซนจะมีผู้ตามมากว่า 14 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก แต่สมเด็จฮุน เซน ไม่แคร์ไม่สนใจใดทั้งสิ้น
หลังจากปิดบัญชี facebook ของตนเสร็จแล้วสมเด็จฮุน เซน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังข่มขู่ด้วยน้ำเสียงขึงขังว่าอาจสั่งปิด facebook ในกัมพูชา ในอนาคต และขณะเดียวกันสมเด็จฮุน
เซน ก็ชักชวนให้ชาวกัมพูชาให้หันมาใช้ Telegram และ Tik
Tok แทน
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ที่กัมพูชากลุ่มคนที่ใกล้ชิดสมเด็จฮุน เซน ไม่ว่านักธุรกิจหรือนัการเมืองต่างออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนสมเด็จฮุน เซนให้ปิด facebook ในกัมพูชา ตอนนี้ฝ่ายที่สนับสนุนมีการพยายามรณรงค์ให้เลิกใช้
facebook ในหน่วยงานภาครัฐ
โดยขอให้ใช้ Telegram และ Tik Tok ดังที่กล่าวไป
กรณีความขัดแย้งระหว่างสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กับ facebook เป็นการมองคนล่ะอย่างชัดเจน ฝ่ายแรกคือสมเด็จฮุน เซนที่อยู่ในอำนาจปกครองกัมพูชามาเป็นเวลามากว่า 38 ปี คุ้นเคยกับการใช้อำนาจสั่งการคนอื่น หรือพูดข่มขู่คนอื่นให้ทำตามตลอดเวลา แต่พอเจอคนอื่นสั่งให้ระงับบัญชี facebook ของตนเป็นการชั่วคราวบ้างก็แสดงความไม่พอใจอย่างดุเดือด กล่าวหาทางว่า facebook ปิดกั้นเสรีภาพของชาวกัมพูชาไม่ให้เข้าถึง facebook ของนายกรัฐมนตรี แถมด้วยข้อกล่าวหารุ่นแรงว่า facebook มีการจงใจแทรกแซงการเมืองภายในกัมพูชา ทั้งนี่ หากใครฟังภาษาเขมรออกจะเห็นได้ว่าสมเด็จฮุน เซนมักใช้ภาษาแบบ กู มึง เมื่อพูดโจมตีหรือด้อยค่าคนอื่นเสมอ ในกรณี facebook ก็เช่นกัน สมเด็จฮุน เซน ขู่ว่า กูสั่งปิดมึง (facebook) เมื่อไหร่ก็ได้....
ส่วนฝ่าย facebook เมื่อเจอข้อกล่าวหาแบบรุ่นแรงจากสมเด็จฮุน เซนก็ได้ชี้แจงตอบกลับไปตามกฎของ facebook ซึ่งแน่นอนว่าการใช้คำพูดข่มขู่ หรือพูดยุยงให้เกิดใช้ความรุนแรงบน facebook เป็นเรื่องละเมิดกฎของ facebook ซึ่งกรณีสมเด็จฮุน เซน น่าละเมิดกฎของ facebook บ่อยๆ เพราะแกมักใช้คำพูดข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามเป็นประจำ อย่างกรณีนายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านที่ประกาศว่าจะกลับเข้าไปกัมพูชาตามช่องบกชายแดนไทย กัมพูชา สมเด็จฮุน เซนก็ขู่ว่า "ถ้ามึงเข้ามา ก็จะยิงมึง....) นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สมเด็จฮุน เซนใช้คำพูดข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม แต่ทว่าที่ผ่านมามีหลายกรณีที่ facebook ไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังแต่อย่างใด
สรุปแล้วคงรอดูต่อไป สมเด็จฮุน เซนจะท่าที่อย่างไร จะสั่งปิด facebook ตามคำขู่หรือไมอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ทุกเวที่ตอนนี้สมเด็จฮุน เซนไปหาเสียงเลือกตั้งที่ไหน แกพูดโจมตี facebook เสมอ คล้ายๆ นำเอาประเด็น facebook ไปหาเสียงอย่างนั้นไป ซึ่งเป็นไปได้หลังเลือกตั้งเสร็จในวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 นี้ เรื่อง facebook อาจหายเข้ากลีบเมฆในที่สุด