วันที่ 23 กรกฏาคม ปี 2566 จะถึงนี้ที่ประเทศกัมพูชามีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งครั้งนี้ไฮไลท์อยู่ที่พลเอก ฮุน มาแนต ผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชาลงรับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. เป็นครั้งแรกด้วย ในเขตเลือกตั้งกรุงพนมเปญ ตามรายงานสื่อท้องถิ่นบอกว่า พลเอก ฮุน มาแนต มีรายชื่ออยู่ในลำดับที่หนึ่งเขตกรุงพนมเปญ
สำหรับพลเอกฮุน มาแนต แม้มีตำแหน่งเป็นข้าราชการประจำ แต่เขาก็เป็นกรรมาถาวรของพรรคประชาชนกัมพูชา และยังเป็นประธานเยาวชนของพรรคอีกด้วย แต่ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. ของกัมพูชา ค.ศ. 2013 มาตรา 25 เขามีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ทว่ากฎหมายบอกว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคร่าวในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง และหากชนะการเลือกตั้งก็สามารถไปปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส. ได้ปกติ โดยสภาพความเป็นข้าราชการประจำยังคงอยู่ แต่เมื่อพ้นจาก ส.ส. แล้วสามารถกลับมาเป็นข้าราชการได้ตามเดิม
![]() |
นายกรัฐมนตรีฮุน เซน และ พลเอกฮุน มาแนต ในพิธีบุญวันวิสาขบูชา |
แต่อย่างไรก็ตามการลงสมัครรับเลือกตั้งของพลเอก ฮุน มาแนตครั้งนี้ เป้าหมายคงไม่ใช่ตำแหน่ง ส.ส. อย่างเดียว หากแต่มาโอกาสสูงที่เขาจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาต่อจากพ่อของเขาคือสมเด็จฮุน เซน ในปลายปี 2566 นี้ ซึ่งเหตุผลที่ว่าน่าจะเป็น มีดังนี้
(1) หากผลการเลือกตั้งชนะขาดเหมือนยังครั้งที่แล้วที่พรรคประชาชนกัมพูชาได้ ส.ส. ทั้งหมด 125 ที่นั่ง คือชนะทุกเขตเลือกตั้งแบบร้อยเปอร์เซ็น ถ้าชนะขาดแบบนี้มีโอกาสสูงที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน จะไม่ไปต่อ แต่จะให้พลเอกฮุน มาแนต ลูกคนโตของตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน
(2) สมเด็จฮุน เซน พูดเป็นนัยๆ มาตลอดในระยะสองปีหลังว่าจะสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้คนรุ่่นใหม่เข้ามาแทน และเมื่อสองปีที่แล้วพรรคประชาชนกัมพูชาก็มีมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนให้พลเอกฮุน มาแนตเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของพรรคประชาชนกัมพูชา
(3) การเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้มีโอกาสสูงมากที่พรรคประชาชนกัมพูชาของสมเด็จฮุน เซนจะชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย เรียกได้ว่ายิ่งกว่าแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยเป็นไหนๆ เพราะการเลือกตั้งในช่วงหลังๆ มานี้ สมเด็จฮุน เซน กำจัดฝ่ายค้านแบบไม่เหลือซาก ทั้งตัดสิทธิ์ทางการเมือง ยุบพรรค และจับแกนนำฝ่ายค้านเข้าคุกก็ไม่น้อย ดังนั้น แม้ว่าผมจะไม่ใช่หมอดู แต่คอนเฟิร์มได้เลยว่า พรรคประชาชนของสมเด็จฮุน เซนชนะถล่มทลายแน่นอน แต่จะชนะขาวสะอาดหรือโดยวิธีไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง
ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่ากัมพูชาน่ามีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ชื่อ พลเอกฮุน มาแนต ต่อจากสมเด็จฮุน เซน อีกสามเดือนน่ารู้ผล ส่วนสมเด็จฮุน เซน แม้คาดว่าจะสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็จริง แต่ก็ยังมีบทบาทในการเมืองต่อไป ตามข่าวลือบอกว่า สมเด็จฮุน เซน น่าไปนั่งตำแหน่งประธานวุฒิสภาแทน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างมีเกียติ แม้จะไร้อำนาจก็ตาม เพราะเป็นตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนกษัตริย์ ในกรณีกษัตริย์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เช่น เสด็จไปต่างประเทศเป็นต้น
ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าในระยะหลังมานี้ นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ใช้อำนาจกำจัดฝ่ายตรงข้ามขึ้น เช่น นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านที่ชาวเขมรนิยมชมชอบมากๆ ถูกสมเด็จ ฮุน เซน ใช้กฎหมายจัดการต้องลี้ภัยการเมืองไปประเทศฝรั่งเศส ไม่สามารถกลับมาเล่นการเมืองได้อีกต่อไป กระทั่งสื่ออิสะก็ถูกสมเด็จฮุน เซน เล่นงานหนัก หรือแม้แต่พวก NGO ที่ช่วยเหลือด้านการศึกษา สังคม ในกัมพูชามายาวนานก็ถูกเล่นงานเช่นกัน และกระทำของสมเด็จฮุน เซน ทั้งหมดแม้จะถูกวิภาควิจารณ์จากต่างชาติอย่างไรก็ไร้ผล สมเด็จฮุน เซนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ซึ่งกรณีแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปี ก่อน เพราะ 20 ปีก่อนสมเด็จ ฮุน เซนจะฟังเสียงนานาชาติพอสมควร เมื่อก่อนหน้านี้สมเด็จฮุน เซน มักกำจัดฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว แต่เมื่อนานาชาติโจมตีหนักเข้า สมเด็จฮุน เซนจะฟัง เช่น ปล่อยให้นักการเมืองกลับมารับสมัครลงเลือกตั้งได้ หรือหากนักการเมืองคนใดติดคุก ก็ปล่อยออกจากคุก เป็นต้น แต่รอบ 10 ปีหลังมานี้ สมเด็จฮุน เซนไม่ฟังเสียงนานาชาติเลย แต่อาจฟังเสียงจีนแทนมัง?
ส่วนสาเหตุที่ไม่ฟังเสียงเรียกร้องจากนานาชาติ อาจตีความได้ว่า สมเด็จฮุน เซน เดี๋ยวนี้ ไม่ได้ขอเงินจากนานาชาติเหมือนแต่ก่อนแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องฟังเสียงข้อเรียกร้องจากนานาชาติอีก โดยเฉพาะชาติตะวันตก แต่ตอนสมเด็จฮุน เซนฟังเสียงของจีนแทน เพราะจีนเป็นผู้ให้แทบทุกเรื่อง และจีนเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่สมเด็จฮุน เซนกำจัดฝ่ายตรงข้ามอะไรแบบด้วย
#กัมพูชาเลือกตั้ง 2023 #สมเด็จฮุน เซน #พลเอกฮุน มาแนต