ฮุน เซน เล่นแรง! ตัดสิทธิ์พรรคฝ่ายค้านก่อนการลงเลือกตั้งทั่วไป

23 กรกฎาคมปลายปี 2566 นี้ที่ประเทศกัมพูชากำลังมีการเลือกตั้งทั่วไป แต่ก่อนจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นพรรคฝ่ายค้านอย่าง "พรรคเพลิงเทียน" มีแนวโน้มถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งค่อนข้าวแน่นอนแล้ว สาเหตุที่ตัดสิทธิ์ก็ไม่มีอะไรมาก ตามข่าวที่ออกมาบอกว่าพรรคเพลิงเทียนส่งเอกสารถึงคณะกรรมการเลือกตั้งไม่ครบถ้วน ทำให้ กกต. ไม่อาจออกใบรับรองให้พรรคเพลิงเทียนลงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้  แม้พรรคเพลิงเทียนได้จุดทะเบียนพรรคการเมืองกับกระทรวงมหาตไทยเรียบร้อยแล้วก็ตาม 

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน
ข้อมูลภาพ: เพจ Hun Sen

สำหรับเอกสารที่ฝ่าย กกต. กัมพูชา อ้างว่าพรรคเพลิงเทียนไม่ส่งเอกสารตามที่ กกต. ต้องการนั้น แกนนำพรรคฝ่ายค้านบอกว่า เป็นความจงใจของ กกต. ที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นระบียบใหม่ที่สร้างขึ้นด้วย กกต. เพื่อสกัดกันพรรคเพลิงเทียน ซึ่งจะว่าไปกรณีแบบนี้เป็นเรื่องปกติในรัฐบาลฮุน เซน  ที่แทบทุกองคาพยพของประเทศอยู่ในกำมืองนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ทั้งสิ้น กกต. ก็เป็นองค์กรอิสระหนึ่งอยู่ในกำมือฮุน เซน ดังนั้น งานนี้สื่อมวลฝ่ายประชาธิปไตยทุกสำนักต่างรู้ในใจว่า กกต. ตัดสิทธิ์พรรคฝ่ายค้านตามเจ้านายของเขาสั่งมาอย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ การสกัดคู่แข่งทางเมืองของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ครั้งนี้้ มิใช่ครั้งแรกที่เขาทำกับพรรคฝ่ายค้าน  เมื่อ ค.ศ. 2018 รัฐบาลฮุน เซน ก็ใช้อำนาจศาลดำเนินการยุบพรรคฝ่ายค้านเช่นกัน แถมตั้งข้อกล่าวหากับแกนนำพรรคฝ่ายค้านว่าเป็นกบฏ แกนนำพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และหลายคนกำลังติดคุกอยู่ในขณะนี้

การใช้วิธีสกัดคู่แข่งทางการเมืองครั้งนั้น ทำให้พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ชนะการเลือกตั้งแบบไร้คู่แข่ง กลายเป็นพรรรคเดียวจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีพรรคอื่นได้ที่นั่งในสภาแม้แต่คนเดียว เรียกได้ว่าพรรคของฮุน เซนกินเรียบหมด

แต่ปีนี้ นายกรัฐมนตรีฮุน เซนไม่ได้ใช้อำนาจศาลกำจัดพรรคฝ่ายค้านเหมือนที่ผ่านมา แต่ใช้แค่อำนาจ กกต. ก็สามารถสกัดพรรคฝ่ายค้านได้แล้ว 

เป็นที่น่าจับตามองว่าในระยะหลังมานี้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน เล่นแรงกับพรรคฝ่ายค้านดังที่กล่าวมา แม้นานาชาติพยายามเรียกร้องให้มีพรรคฝ่ายค้านเข้ารวมแข่งขันสู่สนามเลือกตั้งด้วย แต่นายกนัฐมนตรีฮุน เซนไม่สนใจเสียงเรียกร้องจากนานาชาติแม้แต่นิดเดียว ซึ่งต่างกับเมื่อประมาณ 15 ปี ก่อน ที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซนมักยอมอ่อนข้อให้กับเสียงเรียกร้องจากนานาชาติเสมอ  

ถ้าดูทางประวัติการเมืองกัมพูชาจะพบว่านายกรัฐมนตรีฮุน เซน มีความพยายามสกัดคู่แข่งของตนตลอดมา ยุบพรรค ตัดสิทธิ์ทางการเมือง กระทั่งจับผู้นำฝ่ายค้านเข้าคุกก็ทำเป็นปกติของรัฐบาลฮุน เซน แต่ทว่า ราว 15 ปีก่อนนั้น เมื่อเข้าใกล้การเลือกตั้งรัฐบาลฮุน เซนก็จะอนุญาตให้พวกพรรคฝ่ายค้านกลับมาเล่นการเมืองได้ เพราะทนแรงกดดันจากนานาชาติไม่ไหว 

ที่นี่ หากถามว่า แล้วในระยะหลังมานี้เหตุใดนายกรัฐมนตรีฮุน เซนจึงไม่มีความแกรงใจนานาชาติดังที่เคยเป็นเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนล่ะ คำตอบน่าจะเป็นเรื่องความช่วยเหลือในเรื่องการพัฒนาประเทศ เพราะแต่ก่อนนี้กัมพูชาในประเทศล้มละลายจากสงครามกลางเมือง มีความจำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจากประเทศตะวันตกเป็นหลักในการนำเงินไปพัฒนาประเทศ ซึ่งแน่นอนว่า การช่วยเหลือคงมีเงื่อนไข้บางอย่างที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซนต้องแกรงใจผู้ให้เงินมา  ดังนั้น เมื่อนานานาชาติเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีฮุน เซนคืนสิทธิ์การเมืองแก่พรรคฝ่ายค้าน ฮุน เซนจะมีความแกรงใจ อันนี้เป็นเหตุผลปกติที่เข้าใจไม่ยาก

ส่วนระยะหลังที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน เล่นแรงกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน อย่างกรณีล่าสุดตัดสิทธิ์พรรคเพลิงเทียน โดยไม่สนใจเรียกร้องนานาชาติ เรียกได้ว่าฮุน เซน ไม่แกรงใจนานาชาติอีกต่อไปแล้ว  เพราะตอนนี้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน มีนายทุนใหม่ที่ซัพพอร์ตแทบทุกอย่างในการพัฒนาประเทศ อย่างสนามกีฬาเดโชที่ใช้เป็นสนามแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ก็เกิดจากนายทุนใหม่เช่นกัน เขาคือ นายทุนจีน จีนเป็นนายทุนใหม่ที่ไม่คอยสนใจประเด็นสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด นายกรัฐมนตรีฮุน เซนจึงโปรดปราดนายทุนใหม่เป็นพิเศษ

สรุปแล้วนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ใช้อำนาจเผด็จการเพื่อกำจัดพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามมากในระยหลัง โดยไม่สนใจสายตานานาชาติ โดยเฉพาะชาติตะวันตกที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซนเคยแกรงใจ แต่บัดนี้ไม่มีแล้ว เพราะชาวตะวันตกไม่ใช่เจ้านายของฮุน เซนอีกต่อไป แต่จีนต่างหากเป็นเจ้านาย แบบจ่ายไม่อั้น

#พรรคฝ่ายค้านกัมพูชา # เลือกตั้งกัมพูชา   #ฮุน เซน #Talkkhmer #เล่าเรื่องเขมร

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า