ประเทศกัมพูชามีระบบปกครองด้วยกษัตริย์มายาวนานเช่นเดียวกันกับประเทศไทย
และประเพณีเกี่ยวกับกษัตริย์ทั้งสองประเทศมีลักษณะคล้ายกัน
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกันคือ การเลือกกษัตริย์องค์ใหม่แทนกษัตริย์องค์เก่า
กษัตริย์ไทยพระองค์มีสิทธิเลือกรัชทายาทได้ตามกฎมณเฑียรบาลเพื่อสืบราชสัตติวงศ์ต่อไปในอนาคตได้
แต่กษัตริย์เขมรมิอาจกระทำได้อย่างกษัตริย์ไทย เพราะเขมรมีประเพณีสืบราชสมบัติของกษัตริย์ด้วยวิธีคัดเลือก
โดยมีสภาราชบัลลังก์เป็นผู้คัดเลือกกษัตริย์องค์ใหม่ สมาชิกสภาราชบัลลังก์
ประกอบด้วยสมาชิกไม่มาก หลักๆ มีนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร์ และสมเด็จพระสังฆราชเป็นต้น
แต่ทว่าในสมัยยุคอาณานิคมฝรั่งเศสปกครองเขมรอำนาจตัดสินใจเลือกกษัตริย์ขึ้นอยู่กับความต้องการฝรั่งเศสมากว่า
สภาราชบัลลังก์เขมรคงเป็นสภากระดาษเปล่ามีหน้าที่เพียงรับทราบ และประกอบพิธียกมงกุฎให้กษัตริย์องค์ใหม่ตามราชประเพณีเท่านั้น
 |
| ข้อมูลภาพ: วิกิพีเดีย |
ส่วนบรรดาเชื้อราชวงศ์เขมรที่มีสิทธิ์ได้รับคัดเลือกให้เป็นกษัตริย์องค์ใหม่จะต้องมาจากสองราชสกุลเท่านั้น
คือราชสกุลอดีตกษัตริย์นโรดม และราชสกุลอดีตกษัตริย์สีสุวัตถ์
โดยบรรดาเชื้อราชวงศ์สองตระกูลนี้ทุกพระองค์มีสิทธิ์ได้รับคัดเลือกให้เป็นกษัตริย์เท่ากันๆ
เรียกได้ว่า ใครๆ ก็มีโอกาสได้เป็นกษัตริย์ทั้งเพ่ !! อย่างกรณีเจ้าสีหนุหากจับมาเรียงแถวจะพบว่า
พระองค์ว่าเป็นเชื้อราชวงศ์ปลายแถวที่เดียวครับ แต่พระองค์ถูกคักเลือกให้เป็นกษัตริย์เฉยเลย
โดยเจ้าสีหนุเองไม่เคยคิดมาก่อนแม้แต่นิดเดียว
และเหตุดังนี้ จึงมีการสันนิษฐานว่า เจ้าสีหนุอาจเป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอ คือคนทั้งหลายเขาคิดว่าที่ฝรั่งเศสในฐานะเจ้าอาณานิคมปกครองเขมรสมัยนั้นยกตำแหน่งกษัตริย์ให้เจ้าสีหนุ
คงเห็นว่าถ้าให้เจ้าองค์อื่นเป็นกษัตริย์กลัวว่าจะควบคุ้มไม่ได้ อาจจะกลายเป็นเสี้ยนหนามให้ฝรั่งเศสในภายหลัง
อันนี้คือการคาดเดาจากคนทั่วไปสมัยนั้นครับ ซึ่งแท้จริงอย่างไงไม่อาจทราบได้
แต่อย่างไรก็ตามเจ้าสีหนุเมื่อได้รับคัดเลือกเป็นกษัตริย์แล้ว
ตลอดชีวิตพระองค์มักมีเรื่องเล่าเล่าซุบซิบนินทา สรรเสริญ กระทั่งเรื่องตลกขบขันๆ ก็มีในสังคมเขมร โดยเฉพาะบทบาททางการเมืองพระองค์ได้รับทั้งความชื่นชม และถูกวิจารณ์ไปในทางลบมากเป็นพิเศษครับ
#มีตอนที่ 2
#Talkkhmer #เล่าเรื่องเขมร